ไฟเสมอด้วยความโกรธไม่มี

 
     
 

           พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบความโกรธว่าเหมือนไฟ เช่น ไฟไหม้ป่า เผาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ความโกรธ มีพลัง มีอำนาจทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ยิ่งกว่าไฟไหม้ป่าเสียอีก มีแต่โทษ ไม่มีคุณแม้แต่นิดเดียว
         จะเห็นได้ว่าคนโบราณมีการอบรมสั่งสอนลูกหลานให้กลัวและระมัดระวังไฟ เพราะอันตรายมาก โดยเฉพาะ ไฟไหม้บ้าน ไฟไหม้ป่า ล้วนแต่เผาทำลาย พรึบเดียว ชั่วข้ามคืน ทำลายทั้งทรัพย์สมบัติจนหมดตัว และยังอาจ ทำลายชีวิตผู้คน บางครั้งเป็นพันๆ หมื่นๆ คนทีเดียว
แต่ความโกรธ อันตรายยิ่งกว่าไฟ ไฟเสมอด้วยโกรธไม่มี
         เพราะความโกรธจะทำลายแม้แต่น้ำใจของเรา คนที่เรารักสุดหัวใจก็ดี คนที่รักเราก็ดี ชื่อเสียง คุณงามความดีที่สะสมไว้ตั้งแต่อเนกชาติ ถูกทำลายย่อยยับได้ด้วยความโกรธ ความโกรธ โมโห ครั้งเดียว สามารถทำลายได้ทุกสิ่งทุกอย่างน่ากลัวยิ่งกว่าไฟไหม้!!!
         ความโกรธนี้ฆ่าผู้มีพระคุณมาหลายต่อหลายคนแล้ว ฆ่าคนที่เรารัก คนที่รักเรา คู่รักที่ต่างรักใคร่ ชอบพอกัน บางครั้งในที่สุด ความโกรธก็ทำให้เลิกร้างกัน ทำให้ชีวิตครอบครัวต้องแตกแยก จนถึงทำให้ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าลูกก็มี ผู้ใหญ่ในระดับประเทศโกรธกัน จนเป็นเหตุให้กลายเป็นสงคราม ฆ่ากันตาย เป็นพันๆ หมื่นๆ แสนๆ ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
         พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สัตว์ทั้งหลายที่เราเห็นกันด้วยตา นับแต่มด ยุง กบ เขียด แมว สุนัข วัว ควาย มนุษย์ อย่างน้อยชาติหนึ่งเคยเป็น พ่อแม่พี่น้องกันในวัฏสงสารที่ยืดยาว ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเคยรักกันเกลียดกันมาอย่างนี้จนทุกวันนี้ และต่อไปอีกหลายภพหลายชาติตราบเท่าที่ยังไม่บรรลุมรรคผลนิพพาน
         เมื่อเช่นนี้ เราไม่ควรประมาท ทำใจให้สงบน้อมเข้ามาสู่ตนพิจารณาดูว่า มีใครบ้างที่เราอาฆาตพยาบาท ถ้ามีรีบให้อภัย อโหสิกรรมเสียแต่บัดนี้ อย่างน้อยก็ชาตินี้ ก่อนตายจะได้ไม่ต้องเป็นคู่เวรคู่กรรมกันอีกต่อไป อย่าคิดว่าเราต่างคนต่างอยู่ไม่เป็นไร แม้จะอยู่คนละจังหวัด คนละประเทศก็ตาม ก็จะมีโอกาสพบกันในชาติหน้า และมีโอกาสมากด้วย ถ้าหากมีอุปทานยึดมั่นถือมั่น ดูใจของตนก็เห็นชัด คิดถึงใครก็ดี คิดแค้นใจอาฆาตพยาบาทใครก็ตาม
         นั่นแหละ ! ระวังให้ดี
         ต่อไปจะเกิดมาพบกัน
         และทำความเดือดร้อนให้แก่กัน
         นับภพนับชาติไม่ถ้วน
         ฉะนั้น ไม่ให้คิดมีเวรแก่กัน จงให้อภัย และอโหสิกรรมแก่กัน ไม่ให้คิดอาฆาตพยาบาท ไม่ให้คิดเบียดเบียนกัน มีแต่ปรารถนาดีต่อกัน พยายามทำแต่กรรมดี ให้ทาน เอื้อเฟื้อกัน มีปิยวาจา พูดดี พูดไพเราะ ทำประโยชน์ช่วยเหลือสังคม วางตนเหมาะสม เสมอต้นเสมอปลาย การประพฤติปฏิบัติต่อกันอย่างนี้จะทำให้เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในปัจจุบัน และเป็นการสร้างกรรมที่ดีต่อกัน
         อนาคตถ้าเกิดมาพบกันอีก
         ก็จะเป็น พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงที่ดีต่อกัน
         เกื้อกูลสนับสนุนซึ่งกันและกัน

 
 
 
     
 

Site Meter ©2007 www.9bkk.com All rights reserved Online Users